มะเร็ง... ภัยร้ายใกล้ตัว

มะเร็ง... ภัยร้ายใกล้ตัว

ปัญหาสุขภาพของผู้หญิงที่ไม่ควรมองข้าม หากเกิดความผิดปกติต้องรีบตรวจเช็คเพราะมันจะเป็นภัยที่สามารถคุกคามในผู้หญิงได้ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง ที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยทำให้สารทางพันธุกรรมเกิดความผิดปกติ และบางส่วนสามารถถ่ายทอดสารทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ได้ มะเร็งสามารถเจริญเติบโต เพิ่มจำนวนเซลล์ เพิ่มขนาดได้เองอย่างรวดเร็ว และลุกลามทำลายเนื้อเยื่ออวัยวะที่ปกติกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆใกล้เคียงได้อีกด้วย

มะเร็งรังไข่

มะเร็งรังไข่เป็นมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรีที่พบมากเป็นอันดับที่ 7 ของมะเร็งสตรีทั่วโลก และพบเป็นอันดับที่ 6 ของมะเร็งสตรีในประเทศไทยรองจากมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปอด มะเร็งตับ และมะเร็งสำไส้ใหญ่ ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ ได้ทุกช่วงอายุ ตั้งแต่ 20-80 ปี โดยส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 50-60 ปี

พญ.ดวงมณี ธนัพประภัศร์ สูตินรีแพทย์และมะเร็งนรีเวช รพ.วัฒโนสถ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าสัญญาณเตือนที่ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย หากมีอาการท้องอืดเป็นประจำ อาหารไม่ย่อย ปวดท้องเรื้อรัง รับประทานยาลดกรดไม่ดีขึ้น มักมีอาการท้องโตกว่าปกติ และคลำพบก้อน มีก้อนในท้องน้อยหรือปวดแน่นท้อง และหากเป็นก้อนที่มีขนาดโตมาก ก้อนเนื้อนั้นจะไปกดกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้ส่วนปลายจนทำให้ถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระลำบากตามด้วยอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลดในระยะท้ายๆ ของโรคอาจมีน้ำในช่องท้องทำให้ท้องโต ขึ้นกว่าเดิม ผอมแห้ง และภาวะขาดอาหารร่วมด้วย

 

มะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกพบได้บ่อยที่สุดสำหรับอวัยวะสืบพันธุ์สตรี และเป็นมะเร้งที่แพทย์มีการศึกษา และเข้าใจถึงสาเหตุของมะเร็งที่อวัยวะนี้ การค้นหาสามารถทำได้ง่าย และสามารถป้องกันได้ถึงอย่างไรก็ดี ก็ยังมีสตรีชาวไทยเสียชีวิตจากมะเร็งของปากมดลูกเฉลี่ยแล้วประมาณวันละ 10 คน

พญ.ดวงมณี บอกว่า อาการแสดงของมะเร็งปากมดลูก ระยะก่อนมะเร็งหรือระยะเริ่มต้นของโรคนี้ จะไม่มีอาการแสดงที่ผิดปกติ แต่ยกเว้นถ้าเป็นโรคมะเร็งมากพอสมควร อาจมีอาการ ดังนี้

  • เลือดออกทางช่องคลอดที่ผิดปกติ (Abnormal vaginal bleeding)
  • การมีระดูขาวที่ผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีกลิ่นเหม็น
  • ถ้ากระจายปังอวัยวะอื่น อาจมีอาการปวด ถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือดได้

ดังที่กล่าวมาแล้วว่าระยะก่อนมะเร็งหรือมะเร็งที่เพิ่งเริ่มเป็น จะไม่มีอาการและการรักษาทำได้ง่าย มีโอกาสที่จะหายขาดได้สูง วิธีที่จะทราบได้คือการมารับการตรวจภายใน เพื่อเอาเซลล์จากปากมดลูกมาตรวจที่เรียกกันว่าตรวจ Pap Smear และถ้าตรวจร่วมกับการหาเชื้อไวรัส HPV (HPV DNA Test) จะทำให้ได้รับความเม่นยำมากขึ้น

 

มะเร็งเต้านม

หนึ่งในโรคร้ายที่ผู้หญิงทั่วโลกต่างหวาดกลัวคือมะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิง และมีอัตราการเสียชีวิตเป็นอันดับสองรองจากมะเร็งปอด แต่ความน่ากลัวของมะเร็งเต้านมจะลดลงตามความเร็วในการตรวจค้นพบ จึงแนะนำให้ผู้หญิงไทยใส่ใจกับการตรวจหามะเร็งเต้านมอย่างจริงจัง เพราะยิ่งพบเร็วเท่าไร ยิ่งลดความรุนแรงของตี และอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตลงได้มาเท่านั้น

นพ.สาธิต ศรีมันทยามาศ แพทย์ศัลยกรรมมะเร็งเต้านมโรงพยาบาลวัฒโนสถ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า มะเร็งเต้านมสามารถเกิดได้กับผู้หญิงทุกคน และยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือการตระหนักว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ เช่น มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะญาติสายตรงได้แก่ แม่ พี่สาว หรือน้องสาว

และถ้ามีญาติสายตรงป่วยเป็นมะเร็งหลายคน ความเสี่ยงจะยิ่งสูงขึ้นในกรณีเป็นญาติสายรองลงไป เช่นคุณยายความเสี่ยงจะไม่สูงมาก อีกกลุ่มหนึ่งคือสตรีที่ไม่เคยตั้งครรภ์ หรือเริ่มมีประจำเดือนตั้งแต่อายุยังน้อยกว่า 12 ปี หรือประจำเดือนหมดหลังอายุ 55 ปี นอกจากนี้ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ การใช้ยาฮอร์โมนทดแทนสำหรับวัยทองติดต่อกันเป็นเวลานาน ภาวะอ้วน การสูบบุหรี่ และการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง

และนอกจากการหลีกเลี่ยงหรือลดปัจจัยเสี่ยงด้วยการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี อีกวิธีที่ช่วยคัดกรองมะเร้งเต้านมให้ตรวจพบได้ระยะแรกๆ คือ การตรวจคลำเต้านม ตรวจด้วยตัวเอง หรือ  Breast Self-Examination ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายสะดวก และไม่มีค่าใช้จ่าย

แนะนำให้ผู้หญิงที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปทุกคนทั้งกลุ่มเสี่ยงและไม่มีปัจจัยเสี่ยงควรตรวจเต้านมด้วยตัวเองเดือนละหนึ่งครั้ง ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือหลังหมดประจำเดือนหนึ่งสัปดาห์ ถ้าหากต้องการตรวจคัดรองให้พบมะเร็งเต้านมได้

 

วิธีการตรวจ และวินิจฉัยโรคมะเร็งรังไข่

  1. การตรวจร่างกายร่วมกับการตรวจภายในมักจะคลำพบก้อนในท้องหรือบริเวณท้องน้อยและการคลำพบก้อนรังไข่ได้ในสตรีวัยหมดประจำเดือนร้อยละ 30 มักเป็นมะเร็งของรังไข่ (เพราะตามปกติวัยหมดประจำเดือน รังไข่จะฝ่อและมีขนาดเล็กลง)
  2. การตรวจด้วยเครื่องตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) ช่วยบอกได้ว่ามีก้อนหรือมีน้ำในช่องท้อง ในบางรายที่อ้วนหรือหน้าท้องหนามาก การตรวจร่างกายตามปกติอาจตรวจได้ยาก ดังนั้นควรตรวจร่วมกับการตรวจด้วยเครื่องตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงควบคู่ไปด้วย
  3. การตรวจด้วยเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ มีความละเอียดแม่นยำสูง สามารถเห็นภาพลักษณะ ขนาด และจำนวนก้อนในท้อง สามารถตรวจต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะอื่นๆ ในช่องท้องได้
  4. การตรวจเลือดประกอบเพื่อช่วยในการวินิจฉัย และติดตามการรักษา

สำหรับสุภาพสตรีที่มีอายุ 30-35 ปีขึ้นไป ควรมีการตรวจเช็คสุขภาพและตรวจภายในอย่างน้อยปีกละ 1 ครั้งร่วมกับการตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับสตรีที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งควรตรวจห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติควรปรึกษาสูตินรีแพทย์

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ โทร. 082 959 2695

Line ID : @bim100apco